Open menu


พิมพ์แจกเป็นธรรมทาน โดยพระบรมธาตุเจ้าดอยเกิ้ง อำเภอดอยเต่า จังหวัดเชียงใหม่

"อานันทะ ดูก่อนอานนท์ **ก่อนกึ่งพุทธกาล ๑๕ ปี จะเกิดการณ์ร้ายแรง จะมีการรบราฆ่าฟันซึ่งกันและกัน ฝนเหล็กจะตกจากอากาศ ไฟจะลงมาจากอากาศ จะเผาผาญประชาชน จะมีการล้มตายซึ่งกันและกันเป็นอันมาก แต่ว่าดูก่อนอานนท์ก่อนกึ่งพุทธกาล ๑๕ ปี จะถือว่าเป็นการณ์ร้ายแรงหาได้ไม่ ทั้งนี้ก็เพราะว่าหลังกึ่งพุทธกาลไปแล้ว
อานันทะ ดูก่อนอานนท์ จะมีความร้ายแรงมากกว่าก่อนกึ่งพุทธกาลมาก ยักษ์นอกพุทธศาสนา จะรบราฆ่าฟันซึ่งกันและกัน ต่างฝ่ายจะล้มตายกันฝ่ายละมาก ๆ สมณะ ชี พราหมณ์ จะล้มตาย จะตายไปฝ่ายละครึ่งจึงจะเลิกรากัน สำหรับประเทศทีนับถือพุทธศาสนา จะมีภัยเหมือนกัน แต่ไม่ร้ายแรงนัก
พระพุทธเจ้าตรัสว่า ค.ศ. ๒๐๐๐ โลกจะไม่สลาย... พระพุทธศาสนาจะทรงอยู่ได้ตลอด ๕๐๐๐ ปี ทรงตรัสชี้ว่า เขตประเทศต่อไปนี้ จะเป็นประเทศที่มีความเจริญรุ่งเรืองมาก จะสามารถทรงพระพุทธศาสนาครบ ๕๐๐๐ ปี นี่หมายถึง ประเทศไทยถ้าสงครามใหญ่เกิดขึ้น คนจะมีความมั่นคงในพุทธศาสนามากขึ้น ในเมื่อเห็นการสูญเสีย ความตายเกิดขึ้น ความทุกข์ก็เกิดขึ้น จิตใจก็เริ่มเป็นกุศล เวลานั้นบรรดาพุทธศาสนิกชน ก็จะมีความมั่นคงในพุทธศาสนามากขึ้น เพราะกลัวตาย..."
สำหรับท่านนักปฏิบัติ ที่เจริญสมาธิจิต ก็เร่งรัดตนเอง กำลังใจก็จะมีสมาธิ ในที่สุดอภิญญาก็จะเกิด ในเมื่ออภิญญาเกิด ก็จะใช้ผลของอภิญญาและญาณต่าง ๆ ที่ได้จากสมาธิและวิปัสสนาญาณเอามาช่วยบรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลาย ให้มีความสุขปลอดภัย ขอให้ทุกท่านยอมรับนับถือความดีขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ให้ไว้ คือ
๑. สังคหวัตถุ ๔ ได้แก่
 ทาน การให้ มีการสงเคราะห์ซึ่งกันและกัน สร้างความรักเข้าไว้ อย่าสร้างศัตรู
ปิยวาจา พูดดี พูดให้คนที่รับฟังมีความสุข เขาจะรักเรา เราก็มีความสุข
อัตถจริยา ช่วยเหลือการงานซึ่งกันและกัน
สมานัตตตา ไม่ถือตัวไม่ถือตน
 
 ๒. พรหมวิหาร ๔ ได้แก่
เมตตา ความรัก
กรุณา ความเมตตา ความสงสาร
มุทิตา มีจิตอ่อนโยน เห็นใครได้ดีก็ยินดีด้วย
อุเบกขา วางเฉยเมื่อเหตุร้ายเกิดขึ้น ไม่ดิ้นรน ยอมรับตามความเป็นจริง

จง อย่าประมาทในชีวิต จงทรงจิตของท่านให้มีความมั่นคงในคุณพระรัตนตรัย ๓ ประการ คือ คุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งให้มีจิตยึด พระพุทธคุณ ให้ภาวนาว่า "พุทโธ"

ก่อนจะหลับให้กำหนดการเข้าออกของลมหายใจ หายใจเข้านึกว่า "พุท" ลมหายใจออกนึกว่า "โธ" และเวลาตื่นนอนใหม่ ๆ ทำแบบนี้เป็นปกติเวลาที่ยังตื่นอยู่ ถ้าคิดขึ้นมาได้เมื่อไรก็ทำใจให้นึกถึงความดีขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ภาวนา "พุทโธ"เป็นปกติอย่างนี้ได้ชื่อว่าเป็นผู้เข้าถึงไตรสรณคมน์ พุทธรัตนะ ธรรมรัตนะ และสังฆรัตนะ ทั้ง 3 ประการ จิตของท่านจะทรงสมาธิ อำนาจบารมีของพระพุทธเจ้า จะทำจิตใจของท่านให้เยือกเย็น มีความสุข อันตรายที่จะเกิดขึ้นกับท่านทั้งหลาย ก็จะพ้นภัยด้วยอำนาจของพุทธานุภาพ ธัมมานุภาพ สังฆานุภาพ ถ้าจิตของเราไม่นิยมในขันธ์ ๕ หรือ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา จิตเราถึงองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์อยู่ที่ไหนเราจะไปที่นั่น ท่านจะพ้นจากกิเลส จะเข้าถึงพระนิพพานได้

การเตรียมตัวรับมือภัยธรรมชาติครั้งใหญ่
๑.ก่อน การเกิดภัยธณรมชาติครั้งใหญ่ ๑๕ วัน โลกจะเอียงก้มหัวให้ดวงอาทิตย์มากขึ้นเรื่อย ๆ ส่งผลให้น้ำแข็งจากขั้วโลกเหนือละลาย จะนำไปสู่คลื่นยักษ์ถาโถมเข้าสู่แผ่นดิน (ปัจจุบันเกิดขึ้นแล้ว)
๒.เกิดภัยธรรมชาติครั้งใหญ่เป็นเวลา ๔๙ วัน ในระหว่างเดือน ตุลาคม-พฤศจิกายน
๓.ฝนตกครั้งใหญ่ทั่วโลก (ระยะชำระล้าง เป็นเวลา ๗ วัน)
** ระยะเวลาการเกิดภัยธรรมชาติที่รุนแรงของโลกรวมแล้วมีระยะเวลาทั้งสิ้น ๕๖ วัน ใน ๓ วันแรกจะเกิดสงครามนิวเคลียร์ที่ทวีปเอเชีย ในประเทศที่เป็นอริต่อกัน**

ภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
๑.เกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่
๒.พายุถล่ม
๓.แผ่นดินแยกและแผ่นดินไหว
๔.ภูเขาไฟระเบิด (จังหวัดทางภาคกลาง ๒ ลูก ภาคเหนือตอนล่าง ๓ ลูก อีกทั้งที่จังหวัดราชบุรี น่าน แพร่ อำเภอร้องกวาง)
๕.คลื่นยักษ์จากทะเล
๖.โรคระบาดที่สุดจะเยียวยา ได้แก่ Virusteria อหิวาตกโรคสายพันธุ์ใหม่ ผู้ได้รับเชื้อจะเสียชีวิตทันทีภายน ๖ วัน
๗.คลื่นเสียงที่รุนแรง ตั้งแต่เกิดมาในชีวิตยังไม่เคยได้ยินเสียงที่ดังขนาดนี้มาก่อน
๘.อดอยากขาดแคลนอาหาร

การเตรียมตัว เตรียมปัจจัยเพื่อตนเอง และสมาชิกในครอบครัว
๑.เตรียมอาหารและน้ำดื่มไว้ที่บ้าน อย่างน้อย ๓ – ๖ เดือน
๒.เครื่อง นุ่งห่มเพื่อความอบอุ่นของร่างกาย ได้แก่ เสื้อผ้า กระเป๋าน้ำร้อน ผ้าห่ม ฯลฯ เพราะในช่วงเวลานั้น อากาศจะหนาวเย็นยะเยือกจับขั้วหัวใจ
๓.เครื่องใช้ที่จำเป็น
๔.ที่อยู่อาศัย
๕.ยารักษาโรค
๖.ด่าง ทับทิม และคาราไมล์ (จำเป็นมาก) ห้ามกินอาหารที่ไม่ได้ล้างด้วยด่างทับทิม เพราะจะมีทั้งเชื้อโรคและสารกัมมันตรังสี ส่วนคาราไมล์จะมีไว้รักษาโรคทางผิวหนังที่ดูเหมือนจะยากต่อการรักษา แต่เมื่อทาคาราไมล์แล้ว จะหายได้อย่างน่าอัศจรรย์
๗.ยานพาหนะ เช่น เรือ เสื้อชูชีพ
๘.เครื่องช่วยชีวิต
๙.แสงสว่าง เช่น เทียน ตะเกียงพายุ (เวลานั้น ท้องฟ้าจะมืดมิด ๗ วัน เท่ากับ ๑ ราตรี และจะมืดมิดรวม ๗ ราตรี หรือ ๔๙ วัน)
๑๐.เตรียมสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง

การดูแลตัวเองในช่วงวิกฤติ
๑.ห้ามออกนอกบ้านโดยเด็ดขาด ใครมาเคาะประตูบ้านก็ห้ามเปิด ไม่ว่าคนนั้นจะเป็นญาติสนิท หรือคนที่เรารู้จักก็ตาม
๒.ห้ามตากฝน เพราะในฝนจะมีพิษ ทั้งเชื้อโรคและสารเคมีที่มนุษย์สร้างขึ้น
๓.ห้ามลุยน้ำหรือแช่น้ำนาน ๆ แต่ถ้าหลีกเลี่ยงไม่ได้ ต้องใช้ด่างทับทิมล้างทุกครั้ง
๔.ห้ามเปิดประตูต้อนรับผู้อื่น เพราะช่วงเวลานั้นประตูมิติของโลกทั้งสามภพจะถูกเปิดเป็นครั้งแรก
** ผู้ไม่เชื่อเรื่องผีสาง จิตวิญญาณ ก็จะได้เห็น คนที่มาเยือนอาจเป็น ผีเปรต ผีโขมด ที่เป็นเจ้ากรรมนายเวรของเรา จำแลงมาก็เป็นได้ และห้ามอยากรู้อยากเห็นโดยเด็ดขาด **
๕.ห้ามกินเนื้อสัตว์ทุกชนิด
๖.ห้ามกินผักที่ยังไม่ได้ล้างด้วยด่างทับทิม
๗.ฝึกการกินน้อย ถ่ายน้อย
๘.ระวังอากาศที่หนาวเย็น
๙.ระวังสัตว์ร้าย สัตว์มีพิษ เช่น งูพิษ จระเข้
๑๐.ห้ามอยู่ตึกสูงเกิน ๓ ชั้น เพราะตึกสูงเกิน ๓ ชั้น จะพังทลายราบเป็นหน้ากอง

การเตรียมจิตวิญญาณ
๑.ชำระ กรรมให้เบาบางโดย หยุดโลภ โกรธหลง ทำจิตใจให้สงบ เบิกบาน เพราะวันนั้นจะมีผู้ที่เส้นโลหิตในสมองแตก เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก เพราะเสียงที่ดังกึกก้องไปกระตุ้นเส้นเลือดในสมองให้แตก ดังนั้นต้องปล่อยวาง ทำจิตให้เป็นบวก จะช่วยได้ดีมาก
๒.มีสำนึกทางจิตวิญญาณ
๓.ฝึกการละวาง
๔.มีสติรู้ตัวอยู่ตลอดเวลา
๕.ฝึกการทำโฆษกรรม ขออภัยต่อเจ้ากรรมนายเวร หรือผู้ที่เราล่วงละเมิด

**ก่อนกึ่งพุทธกาล ๑๕ ปี   กึ่งพุทธกาลคือ 2,500 ปี หนึ่งพุทธกาลคือ 5,000 ปี  ก่อนกึ่งพุทธกาล 15 ปี ก็หมายความว่าก่อนถึงปี พ.ศ.2500  เป็นเวลา 15 ปีคือ (พ.ศ.2485)

 หากจับสัญญาณเหตุการณ์และสิ่งต่าง ๆ ที่ปารกฎขึ้นบนโลกในปัจจุบันนี้  ดูเหมือนว่าเหตุการณ์ต่าง ๆ ก็จะเริ่มเป็นไปในทิศทางที่สนับสนุนพุทธพยากรณ์  ไม่ว่าจะเป็นเหตุภัยพิบัติตามธรรมชาติที่เริ่มรุ่นแรงและมากขึ้นตามลำดับ  หิมะตก  แผ่นดินไหว น้ำท่วม  ภูเขาไฟระเบิด  โรคระบาด  ภัยสงคราม .. การก่อจราจล...